ห้องแต่งผมไมเต้

Original price was: 250 ฿.Current price is: 100 ฿.

หลุยส์ เฟรีแยร์ส ต้องฝึกงานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เหมือนนักเรียน ม.3 ทุกคน จะให้ฝึกที่ไหนล่ะ เขาไม่รู้หรอก ที่แน่ๆ ก็คือ เขาไม่ชอบไปโรงเรียน และรู้ว่าตัวเองไม่เก่งสักวิชา “ร้านตัดผมที่ยายไปทำ เขารับนักเรียนที่เรียนทำผมมาเป็นช่างฝึกหัด แต่เด็กนักเรียนฝึกงานอย่างหลานก็คงไม่ต่างกันมากนักหรอก”

อาชีพทำผมน่ะรึ มันเป็นอาชีพสำหรับคนที่ล้มเหลว คนที่ไม่รู้หนังสือ บิดาของเขาซึ่งเป็นศัลยแพทย์เคยปรามาสไว้ แต่เนื่องจากเขาหาที่ฝึกงานไม่ได้ จึงไปเป็นนักเรียนฝึกงานที่ห้องแต่งผมไมเต้ และที่นี่เขาก็ได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นคนตรงต่อเวลา ขยันขันแข็ง กระตือรือร้น และมีพรสวรรค์

บรรยากาศที่พลุกพล่านแต่ครื้นเครงสนุกสนาน บทสนทนาระหว่างช่างทำผมและลูกค้า กลิ่นสเปรย์และน้ำยาย้อมผม เสียงกระดิ่งที่ประตู ความกังวลเล็กๆ น้อยๆ และเรื่องเศี้าของมาดามไมเต้ ฟิฟี คลาราและการองส์ ทั้งหมดนั้นล้วนดึงดูดให้หลุยส์ไปที่ห้องแต่งผมไมเต้ เขามีความสุขที่นั่น มันคือบ้านของเขา

ตั้งแต่วันที่สองของการฝึกงาน หลุยส์ก็รู้ว่าเขาอยากอยู่ที่ห้องแต่งผมไมเต้มากกว่าหนึ่งสัปดาห์ แม้บิดาเขาจะคัดค้านเต็มที่ก็ตาม

————

มารี-โอ๊ด มูรัย (Marie-Aude Murail)

มารี-โอ๊ด มูรัย เป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อปี 1954 จบปริญญาเอกด้านอักษรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซอร์บอน เธอเริ่มเขียนหนังสือเมื่ออายุเพียง 13 ปี เธอเขียนบทความ เรื่องสั้นและนวนิยายสำหรับเยาวชนทุกระดับอายุ ตั้งแต่เด็กที่เพิ่งเริ่มอ่านหนังสือออกจนถึงวัยรุ่นโตๆ หนังสือของเธอล้วนเป็นวรรณกรรมที่เด็กก็อ่านได้ผู้ใหญ่ก็อ่านดี นับจำนวนทั้งหมดประมาณ 100 เล่ม และเธอยังคงออกหนังสือใหม่ๆที่สนุกสนานน่าสนใจออกมาเรื่อยๆ มีมากมายหลายประเภท ทุกรสนิยม ทั้งที่เป็นเรื่องเดี่ยวๆและเป็นชุด เธอจะคิดค้นเปลี่ยนประเด็นหลักของแต่ละเรื่องไปเรื่อยๆ เพราะเธอมีคติพจน์ว่า ”ไม่ควรจะให้เรื่องซ้ำๆซากๆ และไม่ควรจะให้คนอ่านคาดการณ์ได้ล่วงหน้า” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง กับชีวิตจริง หรือกับเรื่องพิสดาร ตัวละครของทุกเรื่อง จะเป็นใครและต่างนิสัยกันขนาดไหน แต่ละคนล้วนมีเสน่ห์ดึงดูดความผูกพันจากผู้อ่านได้ทั้งนั้น และเรื่องทุกเรื่องจะต้องจบลงด้วยดี เพราะเธอถือว่าเธอเขียนให้ผู้เยาว์อ่าน

ความสามารถพิเศษอีกอย่างของเธอคือ เธอสามารถหยิบยกหัวข้อที่เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมปัจจุบันมาเขียน ด้วยความเฉลียวฉลาดและด้วยอารมณ์ขันที่มีมุกตลกแพรวพราวไปทั่ว ทำให้ผู้อ่านมีทัศนคติใหม่ที่มีความรุนแรงหรือด้านลบน้อยลง เช่นปัญหาของ คู่กะเทย โรคร้ายเช่นมะเร็ง ผู้หญิงที่ถูกสามีทุบตี และความตาย (Oh, Boy!) โรคปัญญาอ่อน (Simple) ปัญหาของพวกอพยพเข้าเมือง (Vive la République) การทำแท้ง (La fille du docteur Baudoin) ปัญหาเศษฐกิจและการตกงาน (Papa et Maman sont dans un bateau) เป็นต้น